พืช กัญชง สรรพคุณ มากมายที่เราคาดไม่ถึง และยังมีคุณสมบัติทางยา โดยกัญชงมีชื่อภาษาอังกฤษว่า เฮมพ์ Hemp และในส่วนของชื่อทาง วิทยาศาสตร์ของพืช กัญชง คือ Cannabis sativa L.subsp. sativa เป็นพืชล้มลุกที่อยู่ในวงศ์ Cannabaceae วงศ์เดียวกันกับพืช กัญชา แต่จะเป็นสายพันธุ์ย่อย

โดยพืชกัญชงเดิมที มีถื่นกำเนิดในเขตอบอุ่นของทวีปเอเชีย และสันนิฐานว่ามีการกระจายพันธุ์เป็นบริเวณกว้าง อยู่ทางตอนกลางของทวีปเอเชีย และยังมีข้อสันนิษฐานว่ามีการกระจายพันธุ์ของพืชกัญชงเป็นบริเวณกว้าง อยู่ทางตอนกลางของทวีป ตั้งแต่บริเวณของทะเลสาบแคสเปียน ไปจนถึงทางตอนใต้ของเทือกเขาหิมาลัย และทางตะวันตกของไซบีเรีย ก่อนที่จะกระจายไปในที่ต่างๆได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงพื้นที่สูงในประเทศไทยด้วยเช่นกัน

กัญชง สรรพคุณ น่ารู้ และลักษณะทางกายภาพ ของพืชกัญชง

ต้นพืชกัญชง เป็นพืชที่ให้ใยธรรมชาติที่มีความทนทาน วัตถุประสงค์ในการใช้ประโยชน์ระหว่างพืชกัญชา และพืชกัญชงก็แตกต่างกันอย่างมาก และนับตั้งแต่ที่มนุษย์รู้จักการใช้ประโยชน์จากพืชกัญชา มีบันทึกทางประวัติศาสตร์ถึงการใช้ประโยชน์จากพืชกัญชงมากกว่าพืชกัญชา ในยุคล่าอาณานิคม นักเดินเรือ จะนำใยของพืชกัญชง มาทำเป็นเชือกและผ้าใบเรือซึ่งมีความทนทานมากในประเทศจีน ยุคราชวงศ์โจว (1000 ปี ก่อนคริสตศักราช) โดยใช้เส้นใยของพืชกัญชงทดเป็นเครื่องนุ่งห่ม ส่วนเมล็ดกัญชงก็พบว่าเป็นธัญพืชที่รับประทานกันทั่วโลกมานานหลานพันปี

  • ลำต้นของพืชกัญชง : จัดเป็นพรรณไม้ล้มลุก ที่มีอายุเพียงปีเดียว ลำต้นเป็นสีเขียวตั้งตรง มีความสูงได้ประมาณ 1-6 เมตร มีลักษณะอวบน้ำเมื่่อเป็นต้นกล้า และจะเริ่มมีการสร้างกล้ามเนื้อไม้เมื่ออายุได้ประมาณ 2-3 สัปดาห์ และการเจริญเติบโตของต้น จะช้ามากขึ้นในช่วง 6 สัปดาห์แรก หลังจากนั้นจะเพิ่มความสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนมีความสูงเฉลี่ยประมาณ 3 เมตร มีรากเป็นระบบรากแก้ว และมีรากแขนงเป็นจำนวนมาก การปลูกต้นพืชกัญชง จะปลูกด้วยเมล็ด ซึ่งใช้เวลางอกประมาณ 8-14 วัน แลพสามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่อต้นมีอายุ 3-4 เดือน
  • ใบกัญชง : ใบเป็นใบเดี่ยว ลักษณะของใบเป็นรูปฝ่ามือ ลักษณะของแผ่นใบแก่เป็นแฉกประมาณ 7-9 แฉก การเรียงตัวของใบค่อนข้างห่าง ขอบใขเป็นลักษณะของใบเลื่อยและเว้าลึกจนถึงโคนใบ ปลายของใบเรียแหลม ก้านของใบจะยาวประมาณ 2-7 เซ็นติเมตร เมื่อมีการสร้างดอกจำนวนแฉกของใบจะลดลงตามลำดับของการเจริญเติบโต
  • ดอกกัญชง : ลักษณะของดอกพืชกัญชง จะออกดอกเป็นช่อตามซอกใบและปลายยอด ดอกมีขนาดเล็ก สีขาว มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2-4 มิลลิเมตร ลักษณะของดอกกัญชงจะเป็นแบบแยกเพศและอยู่ต่างต้นกัน (บางชนิดหรือบางกรณีจะอยู่ต้นเดียวกัน แต่ที่พบปลูกในบ้านเราคือชนิดที่อยู่ต่างต้นกัน) โดยช่อดอกของเพศผู้จะเป็นแบบ Panicle (ช่อดอก) ประกอบไปด้วยกลีบเลี้ยง 5 กลีบ แยกจากกันเป็นอิสระ มีสีเขียวอมเหลือง มีเกสรเพศผู้ 5 อัน มีระยะเวลาการบานประมาณ 2 เดือน
  • เมล็ดกัญชง : ลักษณะของเมล็ดกัญชงจะมีผลที่แห้ง และมีสีเทา ลักษณะเป็นรูปไข่วงรี ผิวเรียบเป็นมันเงา และมีลายประสีน้ำตาล เมื่อแห้งจะกลายเป็นสีเทา มีขนาดกว้างเฉลี่ยประมาณ 4.47 มิลลิเมตร มีความยาวประมาณ 5.11 มิลลิเมตร และมีความหนา เฉลี่ยแล้วประมาณ 3.75 มิลลิเมตร ภายในเมล็ดมีสารอาหารสะสมจำนวนมาก โดยในเมล็ดของกัญชงจะประกอบไปด้วยแป้งและไขมันอัดกันแน่น โดยมีน้ำมันถึง 29-34% มีไขมันชนิดไม่อิ่มตัวสูง และยังประกอบไปด้วย Linoleic acid 54-60% Linolenic acid 15-20% oleic acid 11-13% โดยไขมันแต่ละชนิดในเมล็กกัญชง เป็นไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย

กัญชง สรรพคุณ ทางยา และประโยชน์ ?

อย่างที่ใครหลายคนเคยได้ยิน หรือรู้จักกันมา ว่าพืชกัญชง มีสารที่สำคัญคือ CBD และมีสาร THC ในปริมาณที่น้อยมาก หากนำพืชกัญชงมาทำเป็นสารสกัดที่มีสาร CBD เป็นส่วนประกอบหลัก และมีสาร THC ที่ไม่เกิน 0.2% ก็สามารถนำไปผลิตเป็นยาหรือยาสมุนไพรได้ โดยสรรพคุณทางยาของพืชกัญชงที่มีการศึกษาและวิจัยพบแล้วมีดังนี้

ส่วนของใบ กัญชง

ในส่วนของใบกัญชง จะมีสรรพคุณทางยาคือ บำรุงโลหิต และช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลาย สดชื่น ช่วยให้นอนหลับได้สบาย ช่วยรักษาอาการวิงเวียนศรีษะ หรือช่วยบรรเทาโรค ไมเกรน และช่วยแก้กระหาย ใช้รักษาโรคท้องร่วง โรคบิด และยังช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด คลายกล้ามเนื้อ และยังรักษาโรคเกาต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วนของเมล็ด กัญชง

เมล็ดของพืชกัญชง มีโปรตีนจำนวนมากที่มีคุณภาพสูงกว่าโปรตีนถั่วเหลือง และยังมีไฟเบอร์สูง ราคาถูก จึงนิยมนำมาใช้เป็นอาหารทดแทนได้อย่างดี ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากถั่วเหลือง รวมทั้งนำเมล็ดกัญชงมาผลิตแป้งเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบประกอบอาหารได้อีก ในอนาคตอาจใช้เป็นทางเลือกในการบริโภคแทนโปรตีนของถั่วเหลือง ซึ่งจะเป็นพืช GMOs (พืชดัดแปลงพันธุกรรม)

น้ำมันที่ได้จากเมล็ดกัญชง มีกรดไขมันโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ซึ่งเป็นกรดไขมันจำเป็นที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย นอดจากใช้เป็นอาหารแล้ว น้ำมันของเมล็ดกัญชงยังถูกนำไปผลิตเป็นสบู่ เครื่องสำอาง ครีมกันแดด โลชั่นบำรุงผิว ลิปสติก ครีมน้ำมันเพื่อรักษาผิวหนัง หรือแม้กระทั่งนำมาสกัดเป็นน้ำมันเพื่อผลิตเป็นเชื้อเพลิง

กัญชง สรรพคุณ

ส่วนของช่อดอก กัญชง

ในส่วนของดอกในพืชกัญชง นิยมสกัดเอาสารกลุ่ม Phytocannabinoids ที่มีคุณสมบัติทางยา อาทิเช่นสาร CBD (สามารถบริโภคได้โดยตรง หรือนำไปเป็นส่วนผสมเพื่อเพิ่มมูลค่าในผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม, ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล และเวชสำอางต่างๆ) และในดอกกัญชงยังมีสาร Terpenes (สารที่ให้กลิ่นและรสชาติ ทำให้พืชชนิดนั้นๆมีเอกลักษณ์) โดยสามารถสกัดสาร Terpenes เพื่อนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของน้ำหอม และผลิตภัณฑ์ทางอาหารได้อีกมากมาย

ปล. ขณะที่แกนต้นกัญชงยังนำไปทำพลังงานชีวมวลได้อีกด้วย โดยจะเห็นได้ว่าต้นพืชกัญชงเป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่สามารถแก้ไขปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบทางด้านอุตสาหกรรม และยังถูกจัดเป็นพืชเศรษฐกิจที่ทำรายได้ให้กับประเทศได้อย่างมากมาย

สารสำคัญในพืชกัญชง

และนอกจากลักษณะทางกายภาพที่ค่อนข้างต่างกันกับพืช กัญชา แล้วนั้น สารสกัดที่ได้จากพืชทั้ง 2 ชนิดก็มีปริมาณที่แตกต่างกันอีกด้วย พืชกัญชงและพืชกัญชา จะมีสารที่เรียกกว่า THC (Delta-9-Tetrahydroconnabinol) และ สาร CBD (Cannabidiol) ซึ่งสารเหล่านี้มีทั้งประโยชน์ในทางการแพทย์ และประโยชน์ทางด้านการรักษามากมายที่เราไม่เคยรู้ ดังนี้

  • สาร THC (Delta-9-Tetrahydroconnabinol)
    สาร THC หรือ Delta-9-Tetrahydroconnabinol เป็นสารที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง ที่ทำให้เมาหรือเคลิบเคลิ้ม พบได้มากในพืช กัญชา (Cannabis) โดยมีประมาณ 1-20% (แล้วแต่สายพันธุ์) ส่วนของพืชกัญชงจะมีสารชนิดนี้น้อยกว่า 1% (ของน้ำหนัก)
    ในทางการแพทย์ สาร THC มีฤทธิ์ช่วยลดการอักแสบ ลดการชักเกร็ง ช่วยให้สงบ ผ่อนคลาย และยังมีคุณสมบัติในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้อีกด้วย อีกทั้งยังช่วยระงับการเติบโตของเซลล์เนื้องอกอีกหลายชนิด (ในหลอดทดลอง)

สาร CBD (Cannabidiol)
ซึ่งเป็นสารที่พบได้ในพืชกัญชง มากกว่าในพืชกัญชา คือจะพบได้ประมาณ 2% แต่ในพืชกัญชา จะมีสารชนิดนี้อยู่น้อยมาก เมื่อเสพสารชนิดนี้เข้าไปแล้วจะไม่มีอาการเคลิบเคลิ้ม เหมือนกับพืชกัญชา ในพืชกัญชงมีคุณสมบัติทางการแพทย์ของสาร CBD อย่างหลากหลาย เช่น มีผลต่อจิตประสาท ทำให้ร่างกายผ่อนคลาย นอนหลับง่าย ลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และยังกระตุ้นให้อยากทานอาหารเพิ่มขึ้น