Bud Weed หรือ ช่อดอก กัญชาที่สายเขียวส่วนใหญ่รู้จักกันดี โดยในส่วนของ Buds/Flower ( ช่อดอกกัญชา ) จะมีค่า THC อยู่ที่ 5-30% ( ขึ้0นอยู่กับสายพันธุ์ บางสายพันธุ์อาจมีค่าของสาร THC สูงถึง 50% ) และเมื่อพูดถึง กัญชา หลายคนอาจจะนึกไม่ออกเลยว่าแท้จริงแล้วพืชกัญชานั้นมีกี่สายพันธุ์ อีกทั้งยังมีประโยชน์ของแต่สายพันธุ์ว่าเป็นอย่างไร ในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ พืชกัญชาสายพันธุ์ต่างๆ พร้อมกับประโยชน์ของแต่ละสายพันธุ์ว่ามีอะไรบ้าง

ช่อดอก

ความหลากหลายของพืชกัญชา ตั้งแต่ ช่อดอก – ราก

ต้นกัญชา ( Cannabis ) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Cannabis sativa L. Subsp. indica ( Lam ) E. Smll & Cronquist โดยต้นกัญชานั้นจะมีสารต่างๆมากมายที่เรายังศึกษาได้ไม่หมด โดยสารสำคัญต่างๆเหล่านี้ มนุษย์ได้นำมาใช้ประโยชน์อย่างแพร่หลาย ตั้งแต่อดีตจนถึงในปัจจุบัน โดยเราจะยกตัวอย่างมาก็คือสาร THC ( Tetrahydrocannabinol ) จะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย มีผลต่อจิตประสาท ลดความตรึงเครียด แต่ต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสม และสาร CBD ( Cannabidiol ) ช่วยลดอาการอักเสบของบาดแผล ลดอาการปวด ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง อย่างได้ผล พืชกัญชานั้นไม่ใช่พืชที่สามารถรักษาได้ทุกโรค เพราะกัญชาแต่ละสายพันธุ์ก็จะมีสารประกอบต่างๆ ในปริมาณที่แตกต่างกันไป เราจึงต้องจำเป็นที่จะต้องศึกษาให้แน่ใจก่อนว่าปริมาณสาร CBD หรือ THC ที่มีในกัชานั้น เหมาะสมกับโรคที่จะรักษาหรือไม่ เพราะนอกเหนือจากสาร CBD และสาร THC แล้วนั้น กัญชายังมีสารประกอบอื่นๆ อีกมากมายทั้งที่มีประโยชน์และมีพิษด้วยนั่นเอง

ช่อดอก

3 สายพันธุ์หลักของพืชกัญชา

กัญชา สายพันธุ์ ซาติวา ( Cannabis sativa L. )

โดยส่วนใหญ่แล้วนั้น พืชกัญชาสายพันธุ์นี้จะมาจากแถบบริเวณเส้นศูนย์สูตร ( ประเทศโคลัมเบีย, เม็กซิโก และ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ) มีลักษณะลำต้นสูงผอม ใบแคบ และมีสีเขียวอ่อน เจริญเติบโตเร็วกว่า เมื่อเทียบกับสายพันธุ์ อินดิก้า และมีความสูงของต้นถึง 20 ฟุต ในหนึ่งฤดู ใช้ระยะเวลาประมาณ 10 ถึง 16 สัปดาห์ กว่าจะเจริญเติบโตเต็มที่ มีรสชาติตั้งแต่รสคล้ายดิน ไปจนถึงรสหวานคล้ายผลไม้ มักจะทำให้เกิดอาการหวาดระแวงและอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ ดังนั้น สายพันธุ์ซาติว่า จึงไม่ค่อยถูกเลือกมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ ในการรักษาโรค ข้อดีของสายพันธุ์ซาติว่า คือทำให้รู้สึกดี ช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้า , อาการเมื่อยล้า , กระตุ้นความอยากอาหาร , อาการเจ็บปวด และอาการคลื่นไส้ สายพันธุ์ซาติวา ยังเป็นสายพันธุ์ที่เคยได้รับความนิยม และมีจำหน่ายในทางตอนเหนือของอเมริกา ในช่วงยุค 60s และ 70s แม้ว่าสายพันธุ์ซาติวา จะค่อนข้างหายาก แต่มันยังคงเป็นที่ต้องการของนักปรับปรุงพันธุ์ ที่ใช้ข้อมูลทางพันธุกรรมในการออกแบบสายพันธุ์ลูกผสมต่างๆ ได้อย่างมากมาย

กัญชา สายพันธุ์ อินดิก้า ( Cannabis indica Lam. )

พืชกัญชาสายพันธุ์นี้ พบมากในแถบตะวันออกกลาง เช่น ประเทศอัพกานิสถาน จีน ทิเบต เนปาล บริเวณที่มีอากาศแห้ง ลักษณะต้นเตี้ยพุ่ม ใบกว้าง และมักจะมีสีเขียวเข้ม เพราะมีคลอโรฟีลล์มากมาย ดอกแน่นติดกัน และยังมีค่า THC ต่ำ แต่มีค่า CBD ที่สูงกว่าสายพันธุ์ ซาติวา นิยมนำ ช่อดอก มาสกัดเป็นน้ำมันมาใช้ในทางการแพทย์ เพื่อการผ่อนคลาย หลังจากที่ต้นกัญชาเริ่มออกดอก มันจะมีการเจริญเติบโตอย่างเต็มที่ภายใน 6-8 สัปดาห์ และเป็นสายพันธุ์ที่เหมาะสำหรับการปลูกในที่ร่ม เนื่องจากลำต้น ไม่สูงเท่ากับสายพันธุ์ ซาติวา ดอกมีลักษณะอวบและหนาแน่น มีรสชาติและกลิ่นที่หอม และหลากหลายตั้งแต่รสชาติ กลิ่นเหม็นฉุน ไปจนถึงรสชาติกลิ่นหอมหวานคล้ายผลไม้ สายพันธุ์อินดิก้ามีฤทธิ์ในการรักษาอาการเจ็บปวด , ฤทธิ์ระงับประสาท และฤทธิ์ในการผ่อนคลายมากที่สุด ผู้ป่วยมักจะใช้สายพันธุ์ อินดิก้า เพื่อช่วยบรรเทาอาการนอนไม่หลับ และอาการเจ็บปวดรุนแรงในช่วงท้ายของวัน หรือก่อนนอน เนื่องจากมีฤทธิ์ที่ทำให้มึนเมาอย่างมาก คุณสมบัติในการระงับประสาทและระงับความเจ็บปวดทำให้มันเป็นที่ต้องการอย่างมากของผู้ป่วยทางการแพทย์ ( เฉพาะทาง )

กัญชา สายพันธุ์ รูเดอราลิส ( Cannabis Ruderlis Janusch )

กัญชาสายพันธุ์นี้ มีต้นกำเนิดในตอนกลางของรัสเชีย มีปริมาณสาร THC เพียงเล็กน้อยและเป็นสายพันธุ์ที่แทบจะไม่มีการปลูกขึ้นเพื่อการสูบสันทนาการ แต่มีสาร CBD ในปริมาณที่สูงมาก ดังนั้นจึงได้รับความิยมอย่างมาก นอกจากนี้สายพันธุ์ รูเดอราลิส ยังมีความน่าสนใจในเรื่องของการออกดอกที่ขึ้นอยู่กับอายุของต้น แทนที่จะเป็นวงจรของแสง คือการออกดอกแบบ Autoflowering ซึ่งจะหมายความว่า แม้จะปลูกพืชกัญชาสายพันธุ์นี้ในร่มภายใต้แสงไฟ ตลอด 24 ชั่วโมง แต่มันจะออกดอกตามจารางเวลาทางพันธุกรรมของมันเอง ดังนั้นเมื่อนำสายพันธุ์นี้ไปผสมข้ามสายพันธุ์กับสายพันธุ์ อินดดิก้า หรือ ซาติวา ผลที่ได้ก็จะมีแนวโน้มที่จะออกดอกแบบ Autoflowering และยังมีปริมาณสาร CBD ที่สูงขึ้นมาก

กัญชาสาย Hybrid ที่นิยมนำ ช่อดอก มาใช้งานกันอย่างหลากหลาย

โดยประโยชน์ของกัญชา ( Hybrid > บทความที่ 7 ( หนัก FarmVape420 ) ) หรือการผสมข้ามสายพันธุ์ คือ นักปรับปรุงสายพันธุ์สามารถสร้างสายพันธุ์ที่ตรงกับความต้องการของผู้ปลูก ผู้ใช้ หรือ ผู้ป่วย ได้ตามความต้องการ ซึ่งในปัจจุบันสายพันธุ์ลูกผสมค่อนข้างเป็นที่นิยมในตลาดอย่างมาก เนื่องจากมีปริมาณสารสำคัญต่างๆตรงตามความต้องการในการใช้ประโยชน์ โดยในบทความนี้เราจะยกตัวอย่าง 3 สายพันธุ์กัญชา Hybrid ยอดนิยม ที่มีเหล่าสายเขียว และผู้ที่ต้องการใช้งานกัญชาเหล่านี้ มาให้ทุกท่านได้รู้จัก และได้เรียนรู้ไปพร้อมๆกัน

  1. สายพันธุ์ลูกผสมแบบ ซาติวา เด่น ( Hybrid Sativa Dominant )
    สายพันธุ์ลูกผสมแบบ ซาติวา เด่น นั้นเป็นที่ต้องการในฐานะยารักษาโรคที่มีคุณสมบัติในการสร้างแรงจูงใจโดยไม่ทำให้มีอาการหวาดระแวงเหมือนกับสายพันธุ์ ซาติวา 100% ซึ่งสายพันธุ์ ซาติวา เด่น จะทำให้รู้สึกดี กระปรี้กระเปร่า และทำให้รู้สึก High ทางสมอง เหมาะสำหรับการสูบในเวลากลางวัน นอดจากนี้ยังมีคุณสมบัติ ที่เป็นยาต้ายอาการซึมเศร้า และมีการกระตุ้นความอยากอาหารของผู้ใช้ อีกทั้งยังมีประโยชน์มากมายที่สามารถใช้เป็นยารักษาโรค
  2. สายพันธุ์ลูกผสมแบบ อินดิกา เด่น ( Hybrid Indica Dominant )
    สายพันธุ์ลูกผสมแบบ อินดิกา เด่น นั้นถือว่าเป็นสายพันธุ์ที่ดีที่สุด และเป็นที่ชื่นชอบกับเหล่าผู้ใช้อย่างกว้างขว้าง ในด้านประโยชน์ทางการแพทย์ เช่น สายพันธุ์ คุช ( Kush ) มีคุณสมบัติมากมายที่ตรงกับความชื่นชอบของทั้งผู้ปลูก ผู้ใช้ หรือแม้กระทั่งผู้ป่วย เพราะฉะนั้นกัญชาทางการแพทย์ส่วนใหญ่ มักจะเป็นสายพันธุ์ลูกผสมอินดิกา
  3. สายพันธุ์ลูกผสม อินดิกา กับ รูเดอราลิส
    พืชกัญชาสายพันธุ์นี้จะมีระดับสาร CBD ที่สูงขึ้น ทำให้สายพันธุ์เหล่านี้มีประโยชน์ที่ช่วยในการนอนหลับสำหรับผู้ที่มีความทุกข์ทรมานจากอาการบาดเจ็บ , อาการนอนไม่หลับ หรืออาการอักเสบรุนแรง

การพัฒนาสายพันธุ์กัญชา มีหลากหลายวัตถุประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการสันทนาการ หรือจะเป็นการปรับสายพันธุ์เพื่อทางการแพทย์ และบทความต่อไปนี้เราจะน้ำกัญชาทั้ง 5 สายพันธุ์ ที่มีปริมาณสาร THC ( Tetrahydrocannabinol ) ที่สูงที่สุดจากการจัดอันดับของผู้ใช้งานจากทั่วโลก ให้ทุกคนได้ทราบ และเรียนรู้ไปพร้อมๆกัน

  1. สายพันธุ์ Chem Berry : THC 25-32 %
    ด้วยปริมาณ THC ที่สูงสุดถึง 32% ส่งผลให้กัญชาสายพันธุ์ Chem BerryD เป็นหนึ่งในสายพันธุ์กัญชาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในปัจจุบัน ส่งผลประหนึ่งรับยากล่อมประสาท ปริมาณมหาศาลเข้าไปในร่างกายอย่างรวดเร็ว และยังมีกลิ่น Terpene ที่ซับซ้อนระหว่างกลิ่นผลไม้ Fruity และกลิ่น Chemical fuel เข้าไว้ด้วยกัน ข้อดีของสายพันธุ์นี้คือ ปลูกได้ค่อนข้างง่าย ใช้เวลาเพียง 10 สัปดาห์ในการออกดอก สารถปลูกได้ทั้งในที่ร่มและที่แจ้ง ให้ผลผลิตมาก ต้นมีขนาดไม่ใหญ่มากเกินไป เจริญเติบโตได้ในสภาพอากาศที่หลากหลาย
  2. สายพันธุ์ Bruce Banner BX02.0 : THC 25-30 %
    สายพันธุ์นี้มีปริมาณ THC สูงถึง 30% เป็นลูกผสมระหว่าง Strawberry Diesel และ Bruce Banner#3 โตเร็ว ให้ผลผลิตมาก ใช้เวลาโดยปกติ10 สัปดาห์ในการออกดออก
  3. สายพันธุ์ Hulk berry : THC 27 %
    เป็นสายพันธุ์ที่แข็งแรง ต้นสูง และเต็มไปด้วยกลิ่นหอมๆ ของ berry ระดับ THC ประมาณ 27%ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเป่า เพลิดเพลินได้ยาวนาน ( ถ้าใช้ในปริมาณที่เหมาะสม )
  4. สายพันธุ์ Original Glue : THC 24-30 %
    สายพันธุ์ในกลุ่ม Glue ลักษณะของยางเหนียวๆ ของเกสรอันอุดมสมบูรณ์ในช่อดอก อันเป็นเอกลักษณ์ของสายพันธุ์นี้ โดย Original Glue เป็นลูกผสมระหว่าง Chem’s Sister , Chocolate Diesel และ Sour Dubb ด้วยความหลากหลายนี้ทำให้ได้รสชาติเฉพาะและปริมาณ THC ที่สูงสุดถึง 30 %

สายพันธุ์Girl Scout cookies : THC 25-28 %
Girl Scout Cookies มีกลิ่นหอมที่ซับซ้อน มีทั้งความหวานหอมจากผลไม้ บวกกับกลิ่นมิ้นต์ ที่สดชื่น ทำให้ร่างกายผ่อนคลาย เหมาะสำหรับการใช้ในเชิงสันทนาการ