พืชกัญชาทั่วโลก มีอยู่มากมมายหลากหลายสายพันธุ์ ในการศึกษาจนถึงปัจจุบัน มีมากกว่าหมื่นสายพันธุ์ มีหลักฐานการเริ่มใช้กัญชาในประเทศฝั่งตะวันตกมามากกว่า 5,000 ปี และได้พบว่าพืชกัญชามีผลในการบรรเทาอาการป่วยได้หลากหลายอาการ ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ และในปัจจุบันพืชกัญชา ก็ถูกจำแนกออกเป็น 3 สายพันธุ์หลัก ได้แก่ Cannabis Sativa , Indica , Ruderalis ที่ได้ถูกแยกออกมาเป็นสายพันธุ์หลักของพืชกัญชา

ในขณะเดียวกันก็เกิดอาชญากรรมขึ้นมากมายจากกลุ่มผู้ใช้ กัญชา พืชกัญชาจึงถูกจัดอยู่ในกลุ่มยาเสพติดเนื่องมาจากผู้ใช้บางส่วนที่มีพฤติกรรมที่เสพติดและไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ จนกระทั่งมีครอบครัวหนึ่ง ซึ่งมีเด็กหญิงวัย 5 ขวบ ชื่อ Charlotte’s Web ที่มีอาการชักที่ไม่มียารักษาได้ (Dravet syndrome) เด็กหญิงมีอาการชักถึง 200 ครั้งต่อสัปดาห์ และไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายได้ ทางครอบครังได้ยินเกี่ยวกับการใช้กัญชาในเด็กที่มีอาการชัก จึงพยายามหากัญชามาใช้ ผลปรากฏว่า เพียงไม่กี่หยดเด็กหญิงสามารถขยับร่างกายได้บ้าง เด็กหญิง Charotte ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เกิดเป็นการจุดประกายในการใช้กัญชาทางการแพทย์

ปัจจุบัน พืชกัญชา ได้ถูกปลดล็อคให้สามารถใช้เป็นกัญชาทางการแพทย์ได้ในหลายประเทศทั่วโลก จึงได้มีการศึกษาอย่างจริงจัง มีองค์ความรู้เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย รวมทั้งเรื่องสายพันธุ์กัญชา ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญลำดับแรกในการเลือกใช้กัญชา เนื่องจากกัญชาแต่ละสายพันธุ์ มีคุณสมบัติแตกต่างกันอย่างมากมาย รวมถึงวิธีการปลูกที่แตกต่างกัน ก็จะให้สารออกฤทธิ์ที่ต่างกัน

Cannabis Sativa

3 สายพันธุ์กัญชา ที่ถูกจัดว่าเป็นสายพันธุ์หลักของพืชกัญชา

พืชกัญชาสายพันธุ์ Sativa , Indica , Ruderalis เป็นประเภทของสายพันธุ์กัญชา ส่วน Hybrid เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ของ Ruderalis ผสมพันธุ์กับ Sativa หรือ Indica ซึ่งเป็นพืชที่อยู่ในตระกูลแคนนาบิส (Cannabis) จัดเป็นพืชดอกชนิดหนึ่งที่ปลูกเพื่อเก็บเกี่ยวส่วนดอกและส่วนต่าง ๆ มาใช้ด้านเกษตรกรรม, ด้านอาหาร, ด้านการแพทย์ และเพื่อความเพลิดเพลิน โดยสารสำคัญต่าง ๆ ที่ออกฤทธิ์ในแคนนาบิสนั้น เรียกว่า แคนนาบินอยด์

และที่ทุกคนจะได้ยินบ่อยมากคือ THC (Tetrahydrocannabinol) เป็นสารตัวการที่ออกฤทธิ์ความรู้สึกที่เคลิบเคลิ้ม หรืออาการเมา Get high และอีกสารที่ได้ยินกันบ่อยมากคือ CBD (Cannabidiol) เป็นสารที่ออกฤทธิ์ระงับประสาท Sedative มีประโยชน์ในการทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย และสามารถรักษาอาการปวดเรื้อรัง และสารนี้ไม่มีการออกฤทธิ์กระตุ้นประสาท (Non-psychovative)

  1. Cannabis Sativa
    สายพันธุ์กัญชา Sativa (Cannabis sativa Type) โดยส่วนใหญ่ มีต้นกำเนิดในเขตเส้นศูนย์สูตร เช่น โคลัมเบีย แม็กซิโก ไทย ตอนกลางของทวีปแอฟริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้ทนสภาพอากาศที่ร้อนได้ดี อาการของสายพันธุ์ซาติวามีแนวโน้มที่จะให้ผลออกฤทธิ์ทางสมองและจิตใจ ซึ่งสามารถใช้ได้ดีกับการออกกำลังกาย การทำกิจกรรมทางสังคม หรือกิจกรรมที่สร้างสรรค์

    กัญชา สายพันธุ์นี้สูง มีลำต้นหนาและใบเรียวเป็นสีเขียวอ่อน (เทียบกับ indica) ดอกห่างกันพอสมควร เนื่องจากถูกปรับให้เข้ากับสภาพอากาศที่ร้อนและชื้นเพื่อหลีกเลี่ยงการเติบโตของเชื้อรา เติบโตสูง 150-250 ซม. หญ้าชนิตหนึ่งสามารถเข้าถึงประมาณ 6 ม. เก็บเกี่ยว 9-16 สัปดาห์ในฤดูปลูก ชอบแสงแดดและความร้อน มีแนวโน้มที่จะบานนานกว่าอินดิก้า ระบบรากสามารถเข้าถึงความลึกสองเมตรในดินที่มีการระบายน้ำได้ดี และรัศมีไม่เกินหนึ่งเมตร

    Sativa เป็นภาษาละติน ที่แปลว่า เพาะปลูก ตั้งโดย คาโรรัส ลินเนียส Carolus Linnæus หรือ Carl Linnaeus) นักพฤกษศาสตร์ชาวสวีเดน โดยจัดวงศ์พืชชนิดนี้ไว้เมื่อปี ค.ศ.1753 (พ.ศ. 2296)

    คุณสมบัติ
    – กัญชาสายพันธุ์ซาติวาจะมีค่า ค่า THC สูง และค่า CBD ต่ำ
    – ทำให้อารมณ์ดี หัวเราะง่าย
    – กระตุ้นให้ตื่นตัว กระฉับกระเฉง
    – เคลิบเคลิ้ม ล่องลอย มีฤิทธิ์ต่อประสาท
    – ช่วยหระตุ้นความคิดสร้างสรรค์
    – โฟกัส มีสมาธิ
    – ช่วยการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
    – ขจัดความเศร้า ความเครียด
    – ลดอาการซึมเศร้า
    เหมากับการใช้ในช่วงเวลากลางวัน
  2. Cannabis Indica
    พืชกัญชา สายพันธุ์ Indica (Cannabis Indica) โดยในธรรมชาติมีต้นกำเนิดมาจากภูมิอากาศที่หนาวเย็น สามารถพบได้ในตะวันออกกลาง ปากีสถาน อีฟกานิสถาน อินเดีย และเทือกเขาทิเบต อาการของสายพันธุ์ อินดิกา (Indica) เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดอาการระงับความรู้สึกทางกายเหมาะสำหรับหารพักผ่อนด้วยการดูหนังหรือการนอนก่อนนอน
    ผู้ค้นพบพืชกัญชา สายพันธุ์ Indica คือ ณอง-แบ๊บติสท์ ลามาร์ค (Jean-Baptiste Lamarck) ทหารนักชีววิทยา ชาวฝรั่งเศส ผู้ตั้งชื่อและตีพิมพ์ความรู้เรื่อง กัญชา สายพันธุ์ Indica ในปี ค.ศ.1785 (พ.ศ.2328) พืชกัญชาสายพันธุ์ อินดิกา ได้ชื่อมาตามแหล่งกำเนิดที่ต้นพบในประเทศ อินเดีย และบริเวณตะวันออกกลาง

    กัญชาสายพันธุ์ อินดิกา (Indica) มีลักษณะลำต้นที่สูงไม่สูงมาก ต้นจะมีลักษณะเป็นพุ่มเตี้ย ใบมนกว้าง สีเขียวเข้ม (เมื่อเทียบกับสายพันธุ์ Sativa) ลักษณะของดอกเป็นพุ่มหนาแน่น มีกลิ่นหอมและมีผลผลิตสูงมากกว่ากัญชาสายพันธุ์ Sativa และยังมีแนวโน้มที่จะมีระยะเวลาการออกดอกสั้นกว่า กัญชา สายพันธุ์ Sativa และยังมีแนวโน้มที่จะมีระยะเวลาการออกดอกสั้นกว่า Sativa ซึ่งเป็นเหตุผลที่สายพันธุ์นี้มักจะเป็นที่ต้องการสำหรับการเพาะปลูกในรุ่ม (Indoor) และเมื่อโตเต็มวัยจะมีความสูง 100-150 ซม. ช่องห่างระหว่างกิ่งสั้น มีระยะเก็บเกี่ยวอยู่ที่ 6-8 สัปดาห์ ซึ่งเร็วกว่าสายพันธุ์ Sativa เพราะสายพันธุ์ Indica นั้นมีคลอโรฟิลล์ (Chlorophyll) ที่สูง จึงทำให้โตเร็ว และเป็นสาเหตุที่ทำให้มีสีเขียวเข้ม

    คุณสมบัติ
    – กัญชาสายพันธุ์ Indica จะมีค่าของสาร THC ในระดับกลาง และมีค่า CBD ที่สูงมาก (แล้วแต่สายพันธุ์)
    – ผ่อนคลาย สงบ
    – บรรเทาอาการเจ็บปวด
    – ลดอาการอาเจียน
    – ช่วยลดอาการอักเสบ
    – ลดความวิตกกังวล และความเครียด
    – ช่วยให้นอนหลับง่าย และช่วยให้ง่วงนอน
    – ช่วยบรรเทาอาการกระตุกและชัก
    – ช่วยกระตุ้นความอยากอาหารของผู้ใช้กัญชา
    เหมาะสำหรับใช้งานในช่วงเวลากลางคืน ก่อนนอน หรือในช่วงเวลาสันทนาการ
  3. Cannabis Ruderalis
    ผู้ที่ตีพิมพ์เรื่องราวของพืชกัญชาสายพันธุ์นี้คนแรก คือ นักพฤษศาสตร์ชาวรัสเชีย ชื่อว่า ดี.อี.จานิสเชสกี้ (D.E.Janischewsky) เมื่อปี ค.ศ.1924 (พ.ศ.2467) พืชกัญชาสายพันธุ์ รูเดอราลิส (Ruderalis) มีแหล่งกำเนิดมาจากบริเวณตอนกลางและในแถบตะวันออกของยุโรป

    ลักษณะทางกายภาพของพืชกัญชาสายพันธุ์ เรอดูราลิส นั้น มีลำต้นเตี้ยที่สุดในบรรดา 3 สายพันธุ์ ดูคล้ายวัชพืช ลักษณะของใบกว้าง มี 3 แฉ เติบโตได้เร็ว อยู่ได้ทั้งอากาศร้อนและเย็น ปริมาณสาร THC ที่น้อย (เมื่อเทียบกับสองสายพันธุ์แรก) แต่จะมีค่าของสาร CBD ที่สูง มักนิยมนำำพืชกัญชาสายพันธุ์นี้ไปผสมข้ามสายพันธุ์ (Hybrid) กับซาติวา และ อินดิกา เพื่อให้ได้ คุณสมบัติทางยา
Cannabis Sativa

ความแตกต่างของกัญชาสายพันธุ์ Cannabis Sativa , Cannabis Indica , Cannabis Hybrids

โลกของพืชกัญชาในปัจจุบันนั้นได้เติบโตขึ้นอย่างมากใน ช่วง 2-3 ทศวรรษที่ผ่านมา และต้องขอบคุณนักปลูก และพ่อแม่พันธุ์ของพืชกัญชาทั้งหมด พันธุ์พืชศาสตร์ได้มีการวิวัฒนาการเช่นกัน ก่อนที่ร้านขายยาตามกฏหมายอีก และส่วนของผู้บริโภคยังสามารถเข้าถึงสายพันธุ์ต่างๆของพืชกัญชา ได้อย่างน้อย 20 สายพันธุ์

กัญชามีหลายร้อยสายพันธุ์ หรืออาจจะเป็นหลักพันสายพันธุ์ กัญชา ที่มีความแตกต่างกัน และทั้งหมดเหล่านี้แบ่งออกเป็นสามประเภท หรือ 3 สายพันธุ์หลักนั่นเองและบทความต่อไปนี้ เราจะมาทำความเข้าใจกับ 3 สายพันธุ์หลักของพืชกัญชาว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร

ดอกไม้ของพืชกัญชา สายพันธุ์ อินดิก้า เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคที่ชื่นชอบการดื่มด่ำประสบการณ์ ที่ทำให้มึนเมา ที่คุณได้รับหลังจากรับประทาน Indica คือผลข้างเคียงจากการเสพสารที่เกี่ยวข้องกับ CBD ซึ่งช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและช่วยให้คุณหลับได้ง่ายมากขึ้น

ดอกของกัญชาสายพันธุ์ Sativa นั้นเหมาะกับผู้บริโภคกัญชา เพื่อความพักผ่อนหย่อนใจและให้อาการมึนเมาที่สูง คุณจะได้รับประสบการณ์แบบพุ่งกระฉูดหลังจากการเสพ โดยดอกของ Sativa นั้นเกิดขึ้นเนื่องมาจากระดับ THC ที่สูงขึ้นของพืชประเภทนี้

พืชกัญชาลูกผสม (Cannabis Hybrid) เป็นสายพันธุ์ที่ผสมพันธุ์โดยผสมกัญชาทั้งสองสายพันธุ์ ผสมผสานผลกระทบและลักษณะอื่นๆ ทั้งหมด เช่น โครงสร้าง กลิ่น รส และสี พืชกัญชาประเภทนี้มักเป็นที่ต้องการของผู้ปลูกหรือพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่ต้องการปลูกสายพันธุ์ที่ทันสมัยมากขึ้น

แต่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะอธิบายรูปแบบการเติบโตและผลกระทบของลูกผสม สายพันธุ์ลูกผสมทั้งหมดมีสัดส่วนของยีน indica และ sativa เนื่องจากการรวมกันของยีนที่แตกต่างกัน เช่น สายพันธุ์ แต่เนื่องจากการผสมผสานทางพันธุกรรมที่แตกต่างกัน แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะอธิบายรูปแบบการเติบโตและผลกระทบของสายพันธุ์ลูกผสม สายพันธุ์ลูกผสมทั้งหมดมีเปอร์เซ็นต์ของยีน indica ตัวอย่างเช่น สายพันธุ์สามารถมียีน indica 30% และยีนข้าว 70% หรือ 80%, 20%, 50% และ 50% เป็นต้น